คุณรู้หรือไม่ว่า ผนังกั้นโต๊ะทำงานเป็นผลงานความคิดสร้างสรรค์ของ
Bob Propst มัณฑนากรชาวอเมริกัน ที่ต้องการให้การทำงานเป็นสัดส่วน
มีพื้นที่ใช้สอยในการทำงานมากขึ้น ซึ่งเริ่มผลิตใช้จริงเมื่อปี ค.ศ
1968
ผนังกั้นโต๊ะทำงานที่ได้มาตรฐานควรมีขนาด 4?4 ฟุต หรือ 4 ?6
ฟุต แต่ไม่ควรกั้นสูงกว่า 5 ฟุต เพราะอาจจะกั้นแสงสว่างหรือการระบายอากาศ
หากแผงกั้นโต๊ะทำงานได้สัดส่วนแล้ว คุณก็จะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว
ทำให้มีสมาธิทำงานมากขึ้น แต่การนั่งทำงานบนเก้าอี้และโต๊ะทำงานกว่า
8 ชั่วโมง อาจทำให้รู้สึกเมื่อยและอึดอัด และถ้าแสงสว่างไม่เพียงพอ
พนักพิงเก้าอี้ไม่ได้ระดับ การระบายอากาศภายในไม่ดีและมีฝุ่นละอองฟุ้ง
ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้
ซึ่งบางครั้งคนทำงานส่วนใหญ่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือจัดการสิ่งแวดล้อมการทำงานทั้งหมด
ดังนั้นการปรับเปลี่ยนหรือจัดการสิ่งแวดล้อมบริเวณโต๊ะทำงานให้ดีขึ้น
จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตนเองในระยะยาว เริ่มจาก...
ปรับเก้าอี้ให้ได้ระดับ
อาการปวดหลังที่คนทำงานนั่งโต๊ะมีปัญหาส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการนั่งเก้าอี้ที่ไม่ได้ระดับต่อความสูงของโต๊ะทำงาน
หรือแป้นพิมพ์ ซึ่งหากปรับความสูงต่ำของเก้าอี้ได้จะดีมาก หากไม่สามารถอาจใช้วิธีการบริหารบรรเทาอาการปวดหลังระหว่างวันทำงาน
โดยอาศัยช่วงเบรกดื่มกาแฟ หรือพักกลางวัน ยืดกล้ามเนื้อหลัง คอ
เอว ไหล่ ข้อมือ ข้อเท้า ทั้งนี้เพื่อเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดอีกด้วย
ปรับแสงสว่างให้พอเพียง
ไม่ควรใช้หลอดไฟให้แสงสว่างจนเกินไป เพื่อป้องกันแสงสะท้อนที่กระทบกับจอคอมพิวเตอร์เข้าตาโดยตรง
ซึ่งอาจทำให้ปวดหัวได้
รักษาความสะอาดโต๊ะทำงาน
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบนโต๊ะทำงาน เพราะเศษอาหารหรือเศษขนมอาจจะตกหล่น
เมื่อสะสมทำให้เป็นบ่อเกิดเชื้อโรคต่างๆ หรือถ้าจำเป็นต้องรับประทานบนโต๊ะทำงาน
หลังรับประทานเสร็จให้รีบเช็ดและทำความสะอาดโต๊ะทำงานทันที เก็บเศษอาหารและล้างภาชนะที่ใช้และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
สุดท้ายอย่าลืมทิ้งขยะใต้โต๊ะทำงานทุกวันและเช็ดฝุ่นบนโต๊ะทำงานอย่างน้อยอาทิตย์ละ
2 ครั้ง
เพื่อสุขอนามัยและสุขภาพของคุณ เสียเวลาใส่ใจรายละเอียดสักนิด
แต่ได้ประโยชน์ระยะยาว